
ชาวบ้านบึงทับช้าง – บ้านหนองกระดังงา ต.จอหอ โคราช ประมาณ 500 คน รวมตัวกันถือป้ายประท้วงคัดค้าน ไม่เอาสนามยิงปืนในชุมชน หวั่นผลกระทบทางเสียงและอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากอยู่ใกล้ชุมชน ระบุผู้ประกอบการสนามยิงปืน ลักไก่ก่อสร้าง เปิดให้บริการ ก่อนมาทำประชาคมภายหลัง ขณะที่ผู้ประกอบการสนามยิงปืนอ้างลงทุนแล้วกว่า 10 ล้าน ยืนยันเป็นสนามแบบปิด มิดชิด ไม่มีเสียงแน่ หากมีผลกระทบยินดีปิดทันที ล่าสุดหลังทำประชาคม มติชาวบ้านเห็นตรงกันยกมือ “ไม่ให้สร้างสนามยิงปืน”
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2563 ที่ศาลาประชาคมบ้านบึงทับช้าง ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีการจัดการทำประชาคมรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน ในพื้นที่บ้านบึงทับช้าง หมู่ 7 และชาวบ้านหนองกระดังงา หมู่ 15 ต.จอหอ ถึงกรณีการก่อสร้างสนามยิงปืนในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการกีฬา และเพื่อใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมแก่ประชาชนทั่วไปและเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนที่สนใจสามารถใช้อาวุธปืนได้อย่างถูกต้อง ซึ่งมีชาวบ้านเข้าร่วมรับฟังและทำประชาคมเป็นจำนวนมาก ในขณะที่บริเวณด้านนอกศาลาประชาคม ได้มีชาวบ้านบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างสนามยิงปืนในชุมชน ยืนถือป้ายคันค้าน พร้อมส่งเสียงตะโกนว่า “พวกเรา ไม่เอา ออกไป” เนื่องจากหวั่นเกรงถึงผลกระทบจากเสียงและหวั่นอันตรายต่อลูกกระสุนปืน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง คอยดูแลรักษาความสงบในการประชาคม
นายชัยสถิตย์ แชจอหอ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองกระดังงา หมู่ 15 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า การประชาคมในครั้งนี้ ถือเป็นการตัดสินใจของชาวบ้าน ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ในการก่อสร้างสนามยิงปืนในชุมชน เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการเอง ได้มาขออนุญาตในการตั้งสำนักงานเท่านั้น แต่ไม่ได้ขออนุญาตในการก่อสร้างสนามยิงปืน รวมทั้งไม่ได้มีการทำประชาคมขอรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านเลย และได้มีการก่อสร้างไปแล้วกว่า 50% อีกทั้งยังเคยมีการใช้ทดสอบยิงปืนอีกด้วย เรื่องนี้ทำให้ชาวบ้านเกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัย และหวั่นผลกระทบจากมลพิษจากเสียงปืนที่เกิดขึ้น ทางชุมชนจึงต้องจัดให้มีการประชาคม รับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้าน ให้ถูกต้อง ส่วนตัวแล้วได้ทำตามหน้าที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับชาวบ้าน ซึ่งผู้ประกอบการไม่ยอมทำให้ถูกต้องตามกระบวนการ จะมาอ้างถึงประโยชน์หรือเป็นการสร้างอาชีพในชุมชน ไม่ได้ ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของชาวบ้านในการประชาคม
ด้าน นายสุขุม พิมพาชาติ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 บ้านบึงทับช้าง เปิดเผยว่า กรณีสนามยิงปืน ไม่ใช่ตนไม่เอา แต่ตนต้องฟังเสียงชาวบ้านส่วนใหญ่ การประชาคมก็อยากให้ผู้ประกอบการรับรู้ว่า จะมาทำอะไรหรือก่อสร้างอะไรแบบนี้ ต้องทำประชาคมจากชาวบ้านก่อน และที่สร้างไปแล้วก็อยากรู้ว่าเขาถือสิทธิอะไรมาก่อสร้าง เรื่องการแจ้ง อบต.อะไร ตนทราบว่ายังไม่ได้ขออนุญาต แต่ขออนุญาตสร้างที่อยู่อาศัย ไม่ได้ขออนุญาตสร้างสนามยิงปืน ที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการอ้างว่า มีหน่วยอรินทรราช หรือ หน่วยหนุมาน หรืออะไรก็ไม่ทราบ มาขอใช้สนาม ซึ่งสนามก็ยังไม่เสร็จ และการยิงครั้งนั้น มีการใช้อาวุธหนักมายิง ทั้ง M16 และ อาก้า เสียงปืนทำให้ชาวบ้านตกใจ กลัว หวาดระแวง ผวากันไปหมด ตอนนี้จะมาอ้างอย่างโน้นอย่างนี้ ชาวบ้านเขากลัวไปหมดแล้ว ทำให้การประชาคมครั้งนี้ก็เลยรวมตัวกันมาต่อต้านคัดค้านไม่ให้มีสนามยิงปืน
ขณะที่ นายธงชัย หาญใจไทย นายกสมาคมกีฬายิงปืนโคราช และเจ้าของสนาม กล่าวชี้แจงว่า การสร้างสนามยิงปืนตรงนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ประชาชน และผู้สนใจในกีฬายิงปืน โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 65 ไร่ แต่เราใช้แค่ 1 ไร่เศษ และห่างจากกำแพงหมู่บ้านจัดสรร 100 เมตร ลึกเข้าไปจากถนน 100 เมตร และตัวอาคารสนามยิงปืนเป็นแบบปิด ไม่ใช่แบบเปิดกลางแจ้ง ขณะนี้ก่อสร้างไปแล้วแค่ 50% และอยากจะขอโอกาสจากชาวบ้านขอให้ตนได้อธิบายและสร้างให้เสร็จก่อน และถ้าสร้างเสร็จแล้วมีเสียงดังหรือเป็นอันตราย ก่อความเดือดร้อนรำคาญต่อชาวบ้าน ตนก็ยินดีปิดสนามยิงปืนทันที
ล่าสุดหลังทำประชาคมปรากฏว่า ประชนชนยกมือไม่เอาสนามยิงปืน โดย นายฟ้า บุญสร้าง กำนัน ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา ในฐานะตัวแทนอำเภอเมืองนครราชสีมา ที่มาร่วมสังเกตการณ์เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า เนื่องจากมีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลาง จ.นครราชสีมา กรณีสนามยิงปืน มาดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่ 2 หมู่บ้าน โดยช่วงก่อนหน้านี้ ชาวบ้านหวาดผวา เพราะได้ยินเสียงปืนดังบ่อยครั้ง เสียงรบกวน รวมทั้งเกิดความตื่นตระหนักหวาดหลัว โดยเฉพาะเกรงว่าลูกเล็กเด็กแดง เด็กเยาวชนได้ยินเสียงปืนบ่อยๆ ทุกวัน จะทำให้เกิดภาวะและมีพฤติกรรมที่รุนแรง สุ่มเสี่ยงเลียนแบบ ทางอำเภอเมืองนครราชสีมา จึงสั่งการให้กำนันในพื้นที่ นัดทั้งสองฝ่ายทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นทั้งสองด้านให้ได้ข้อยุติ
โดยการหารือด้วยการยกมือ ปรากฏว่า ชาวบ้านยกมือลงมติตรงกัน “ไม่ให้สร้างสนามยิงปืน” ส่วนการจะให้สร้างสนามยิงปืน ไม่มีใครยกมือให้เลยสักคน โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จากนั้นให้ทำรายงานเสนอไปยัง นายชนะ ธรณีทอง นายอำเภอเมืองนครราชสีมา เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ก่อนสลายตัว
RSS